ดนตรีอีสาน
เป็นดนตรีระดับพื้นบ้าน เข้าถึงชีวิตชาวบ้าน สืบทอดพัฒนาโดยชาวบ้าน จนได้ชื่อว่าเป็นดนตรีพื้นบ้านอีสาน ที่เข้าถึงชีวิต จิตใจ กล่อมเกลาจิตใจ ตลอดถึง ให้ความสนุกสนาน บันเทิง แก่ชาวอีสาน มาช้านาน เครื่องดนตรีบางอย่าง ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้น และกำเนิดขึ้นในยุคสมัยไหน แต่เครื่องดนตรีทั้งหลาย ก็ยังมีการสืบทอด ปรับปรุง พัฒนา และเผยแพร่ให้คงอยู่ตราบปัจจุบัน ดนตรีพื้นบ้านอีสาน จำแนกเป็นหมวดหมู่ได้หลายรูปแบบ ดังนี้
จำแนกตามลักษณะวิธีเล่น
๑ ประเภทเครื่องดีด - พิณ- หึน หรือ หืน
๒ ประเภทเครื่องเป่า - แคน - โหวด- ปี่กูแคน หรือ ปี่ภูไท
๓ ประเภทเครื่องตี หรือ เคาะ - โปงลาง - กลอง - กั๊บแก๊บ - ฆ้องโหม่ง- ฉิ่ง - ฉาบ
๔ ประเภทเครื่องสี - ซอ
๕ ประเภทเครื่องดึง - ไหซอง
จำแนกตามวัตถุประสงค์การบรรเลง
๑ ประเภทบรรเลงทำนอง - แคน- พิณ - ซอ - โหวด - โปงลาง - ปี่กู่แคน หรือ ปี่ภูไท - หึน หรือ หืน
๒ ประเภทให้จังหวะ- กลอง - กั๊บแก๊บ - ฆ้องโหม่ง- ฉิ่ง - ฉาบ - ไหซอง
ดนตรีเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการฟ้อนซึ่งจะขาดเสียมิได้ เพราะดนตรีนอกจากจะให้การฟ้อนเกิดความพร้อมเพรียงกันแล้ว ดนตรียังเป็นแรงกระตุ้นสำคัญที่ทำให้ผู้ฟ้อนรู้สึกต้องการฟ้อนและฟ้อนอย่างมีความสุข ดนตรีที่ใช้ประกอบการฟ้อนมีตั้งแต่ดนตรีชิ้นเดียวอย่างเสียงกระทบของสาก เสียงกลอง จนถึงการผสมวงมีเครื่องดนตรีหลายๆ ชิ้นประกอบกัน ดนตรีอีสานแบ่งออกตามกลุ่มวัฒนธรรมดังนี้
วัฒนธรรมกลุ่มอีสานเหนือ วัฒนธรรมกลุ่มอีสานเหนือ หรือกลุ่มไทยลาว หรือกลุ่มหมอลำหมอแคน ซึ่งสืบทอดวัฒนธรรมมาจากลุ่มแม่น้ำโขง เครื่องดนตรีในกลุ่มนี้มีหลายประเภท ถ้าแบ่งประเภทโดยยึดการใช้หรือการเล่นดนตรีนั้นๆ ซึ่งแบ่งได้เป็น 4 ประเภท คือ ดีด สี ตี เป่า
วัฒนธรรมกลุ่มอีสานใต้ วัฒนธรรมกลุ่มอีสานใต้ สามารถแบ่งออกได้เป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มที่สืบทอดวัฒนธรรมมาจากเขมร-ส่วย หรือกลุ่มเจรียง-กันตรึม และกลุ่มวัฒนธรรมโคราช หรือกลุ่มเพลงโคราช ในที่นี้จะเน้นเฉพาะกลุ่มเจรียง-กันตรึม ซึ่งแบ่งประเภทเป็นสี่ประเภท คือ ดีด สี ตี เป่า
ลักษณะและโอกาสในการบรรเลงดนตรี
ลักษณะและโอกาสในการบรรเลงดนตรีของกลุ่มหมอลำ พอจะแบ่งออกได้เป็น 2ลักษณะ คือ
-การบรรเลงดนตรีเพื่อประกอบพิธีกรรม ได้แก่ การสูตรขวัญ การลำผีฟ้า เป็นต้น
-การบรรเลงดนตรีเพื่อความบันเทิง ได้แก่ การลำ การเป่าแคน การดีดพิณ เป็นต้น
การบรรเลงดนตรีเพื่อความบันเทิงนี้ ยังแบ่งออกเป็นความบันเทิงส่วนตัว และความบันเทิงระหว่างเพื่อนฝูง เช่น การบรรเลงตามหมู่บ้านยามค่ำคืน กับ การบรรเลงเพื่อความบันเทิงแก่สาธารณชน เช่น การแสดงที่ได้รับการว่าจ้างตามงานบุญต่าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น